การวิเคราะห์คุณค่า ลักษณะเฉพาะหรือเอกลักษณ์ ปัจจัยต่าง ๆ ทีเกี่ยวข้องกับภูมิปัญญา
คุณค่าของผลิตภัณฑ์
ผ้าขิด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของหมอนสามเหลี่ยม หรือ หมอนขิด ซึ่งเป็นผลผลิตที่มีความผูกพันและมีความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมกับชาวบ้านมาแต่โบราณ โดยมีการนำหมอนขิดมาใช้งานในหลายรูปแบบ ทั้งที่ใช้สอยเองในชีวิตประจำวันและ เป็นของฝาก สิ่งของประดับ จนหมอนขิด
กลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่ทุกคนให้การยอมรับและภาคภูมิใจ ซึ่งมีคุณค่าในหลาย ๆ ด้านดังต่อไปนี้
1. ด้านประโยชน์ใช้สอย จะได้ประโยชน์จากการใช้หมอน คือหมอนใช้หนุนศีรษะ
ท้าวแขน ใช้อิง ใช้พิง และจากคติความเชื่อเกี่ยวกับการใช้หมอน ตั้งแต่บรรพกาล มีความเชื่อว่า ไม่ควรเอาหมอนมารองนั่งเป็นอันขาด เพราะถือว่าหมอนเป็นของสูงที่ใช้รองศีรษะ ไม่สมควรนำมารองนั่ง จึงเป็นการสอนให้คนในสังคมประพฤติตนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมไปถึงฐานันดรของคนในสังคม ที่ควรกระทำให้เหมาะสมกับกาลเทศะ หมอนขิดจึงเป็นเสมือนสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและสถานะของมนุษย์ในสังคมนั้น
2. ด้านศาสนา ใช้ในงานทอดกฐิน ชาวบ้านจะนำหมอนขิดขนาดใหญ่สำหรับถวายพระสงฆ์ โดยมีความเชื่อว่าหมอนขิดที่นำไปถวายพระมีขนาดใหญ่เท่าใดก็จะได้บุญมากเท่านั้น การบวชนาคก็นิยมใช้หมอนขิดด้วย เพื่อเป็นเครื่องบูชาแด่พระสงฆ์
3. ด้านประเพณี เช่นงานบุญประจำปี หรือบุญพระเวส ชาวบ้านจะจัดขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ ในขบวนแห่จะมีการแสดงกัณฑ์ต่างๆ ของชาดก เรื่องพระเวสสันดร ชาวบ้านจะร่วมใจกันจัดขบวนด้วยการแต่งกายแบบชุดพื้นเมืองและนำหมอนขิดไปถวายพระที่วัดด้วย
4. ด้านสังคม ใช้เป็นของฝากระหว่างญาติ เพื่อน หรือแขกที่มาเยี่ยมเยือน เป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนที่เป็นที่ภูมิใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
5. ด้านเศรษฐกิจ เป็นสินค้า OTOP ที่สร้างรายได้ให้แก่ชาวชุมชนและเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นความภาคภูมิใจร่วมกันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป็นแหล่งหัตถกรรม ที่สามารถรักษาความเป็นพื้นบ้านแบบดั้งเดิมผสมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของสังคม
ยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
แนวคิดซึ่งได้มาในตัวผลิตภัณฑ์
มีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการย้อมสี โดยการย้อมสีเส้นใยฝ้าย จากวัสดุธรรมชาติ เช่นเปลือกไม้ ตัวอย่างสีเขียว จากเปลือกต้นมะม่วง สีแดงจากเปลือกต้นประดู่ หรือต้นฝาง ผลิตภัณฑ์หมอนขิดสีธรรมชาติเป็นที่ต้องการของตลาดมากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ส่วนการย้อมสีจากเคมีตลาดต้องการน้อยกว่า
รูปแบบและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
หมอนขิดมีรูปแบบและลวดลายที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน มีวิวัฒนาการของลวดลายในหมอนขิด ซึ่งเริ่มจากลายดั้งเดิม ได้แก่ ลายดอกแก้วลายเดือนรอบดาว ลายขอ
ลายกาล ลายช้าง ลายม้า ที่ได้แนวคิดจากเรื่อง
พระเวสสันดร พระเจ้าสิบชาติ และพระนเรศวร ต่อมาได้พัฒนามาเป็นลายใหม่ขึ้นมา เช่น ลายดอกประจำยาม ลายไทย ที่ได้จากการแกะลวดลายตามประตูหน้าต่าง
โบสถ์และวิหารด้วยความเคารพในพุทธศาสนา
และบางแห่งมีเอกลักษณ์ลวดลายที่สะท้อนความเป็นชุมชน เช่น หมอนขิดบ้านป่าตอง มีเอกลักษณ์ในเรื่องของลวดลายที่มีแรงบันดาลใจมาจากดอกมะลิ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม จึงได้นำลายดั้งเดิมมาประยุกต์กับผ้าพิมพ์ลายไทยของภาคใต้ เกิดความคิดสร้างสรรค์เป็นลายดอกไม้สีขาวบนพื้นที่สีเขียว เรียกว่า ลายดอกมะลิใหม่ส่งเข้าประกวดภูมิปัญญาท้องถิ่นประเภทหัตถกรรม ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับจังหวัดและระดับเขต