ผ้าปักม้ง เอกลักษณ์ชนเผ่าที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ
ม้ง (หรือที่มักมีการเรียกกันโดยทั่วไปว่า แม้ว) เป็นกลุ่มชนเผ่าที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่อาศัย
อยู่ในประเทศจีน และด้วยผลจากสงครามจึงค่อยๆ อพยพเข้าไปอาศัยอยู่ในพม่า ลาว เวียดนาม และประเทศ
ไทย ปัจจุบันม้งที่พบมากในประเทศไทยอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก คือ ม้งขาว ม้งดํา และม้งลาย (แต่คําว่า
"แม้ว" เป็นคําเรียกที่ชนเผ่ามงถือว่าไม่สุภาพ ชาวม้งจึงไม่เรียกตัวเองว่า แม้ว และชาวม้งส่วนใหญ่จึงไม่ชอบถูก เรียกว่า แม้วด้วย)
ชนเผ่าม้ง เป็นชนเผ่าชนหนึ่งที่มีความขยันขนแข็งมาก สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างต้องช่วยกันทํา
มาหากิน ในชวงเวลาว่างหลังเสร็จงานเกษตรกรรมเพาะปลูกในไร่นา ผู้ชายชาวม้งจะทํางานตีเหล็กและ
เครื่องเงิน ขณะที่ฝ่ายผู้หญิงจะเย็บปักเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ดังที่มีคํากล่าวถึงวิถีชีวิตชาวม้งตั้งแต่โบราณกาลว่า
"ผู้หญิงปักผ้า ผู้ชายตีมีด" เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของชนเผ่าม้ง จึงนิยมสร้างลวดลายประดับด้วยลายปักที่ใช้ เส้นด้ายสีสันสดใส
ผ้าปักม้ง จึงมีความสำคัญที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและเรื่องราวทางวัฒนธรรมของหญิงชาวม้งที่สืบทอดมา
จากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่นนับหลายร้อยปี
การปักผ้าม้ง เพื่อใช้ติดประดับบริเวณต่างๆ ของเสื้อผ้า เป็นสิ่งที่ผู้หญิงเผ่าม้งจะต้องทําเป็นทุกคน และต้องทําใส่เอง และสําหรับสามีลกชาย ู ด้วย เพราะผู้ชายม้งจะไม่ปักผ้า
หญิงชาวม้งทุกคนจึงต้องร่ําเรียนวิชาปักผ้าจากผู้เป็นมารดาของตนตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบปีแต่ชาวม้งจะไม่นิยม
ใช้สีแดงประดับบนเสื้อผ้า เพราะมีความเชื่อว่า สีแดงเป็นสีรุนแรง เป็นสีทเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุไม่เป็นมงคลจะใช้เฉพาะในงานศพเท่านั้น
ศิลปะลวดลายบนผืนผ้าชนเผ่าม้ง มีทั้งการปัก การเย็บ และการเขียนเทียน (การเขียนลายเทียน
เฉพาะในกลุ่มม้งลาย ส่วนกลุ่มม้งดํา และม้งขาวจะไม่เขียนเทียน) ผ้าปักม้งส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้ายทอมอื และ
ผ้าใยกัญชง เทคนิคที่ใช้ในการปักผ้าม้งโดยหลักจะมี 2 แบบคือ แบบปักเป็นกากบาทคล้ายลายปักครอสติช
และอีกแบบหนึ่งคือ การปักแบบเย็บปะติด เอกลักษณ์ลวดลายที่ปรากฎบนผืนผ้าของชาวเผ่าม้งก็มีหลากหลาย
ลักษณะ ทั้งลวดลายดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ลวดลายที่ถูก
สร้างสรรค์จากจินตนาการเลียนแบบมาจากธรรมชาติสิ่งแวดล้อมรอบตัว วิถีชีวิต ลวดลายที่ได้รับอิทธิพลมา
จากความเชื่อ ตํานาน หรือเรื่องเล่า และลวดลายที่มีการปรับประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยตามความต้องการของกระแสความนิยมของผู้บริโภค
